วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ศาสนากับรัฐ : คุณค่าในโลกร่วมสมัย


โดย ด๊อกเตอร์ถังขยะ
..ช่วงนี้สถานการณ์พระพุทธศาสนาแรงมาก หลายคนคงติดตามข่าวและวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเสรี คำสุภาพ คำผรุสวาท คำเสียดสี ยุยง บิดเบือน พรั่งพรูออกมามากมาย เพื่อให้อุณหภูมิลดลง บทความว่าด้วยศาสนากับรัฐ จะขอเล่าอะไรให้ท่านได้ฟังก่อนสักเล็กน้อยว่า ศาสนาคืออะไร? มีความสำคัญอย่างไร? ก่อนจะวิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่ได้ยินได้ฟังได้เห็นมา
***รัฐและศาสนาเป็นองค์กรที่ใหญ่ที่รวมหัวกันกดขี่ประชาชน***
....ตอลสตอยกล่าวว่า “มนุษย์ที่มีเหตุผลไม่สามารถมีชีวิตอยู่โดยปราศจากศาสนา เพราะมีเพียงสิ่งนี้ประการเดียวเท่านั้นที่จะมอบเครื่องชี้นำที่สำคัญให้กับเขา เพื่อจะได้รู้ว่าเขาจะต้องทำอะไรก่อนอะไรหลัง หรือกล่าวอย่างชัดเจนคือเพราะศาสนาเป็นสิ่งที่ติดมากับธรรมชาติของเขา อันทำให้ผู้มีเหตุผลไม่อาจดำรงชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากศาสนา” ตอลสตอยเริ่มเปิดประเด็นสำคัญเพื่อตอบคำถามถึง “ศาสนาที่แท้” โดยเริ่มด้วยประโยคที่ผู้เขียนเห็นว่านี่คือหัวใจของความเชื่อมั่นอันนำไปสู่การอุทิศชีวิตของเขา “ การยอมรับความเสมอภาคของมนุษย์เป็นคุณสมบัติเบื้องต้นที่สำคัญของศาสนา”
... น่าสนใจไปกว่านั้น ตอลสตอยอธิบายต่อไปว่า “ดังนั้นไม่ว่าในกาละและเทศะใดที่ความเสมอภาคนี้ดำรงอยู่ และไม่ว่าอีกนานสักเท่าไร สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ในทันทีที่คำสอนของศาสนาใหม่ปรากฏขึ้น (รวมทั้งเมื่อทุกคนสำนึกถึงความเท่าเทียมกัน) ผู้ที่ได้ประโยชน์จากความไม่เท่าเทียมจะพยายามปกปิดความไม่เสมอภาคนี้ไว้ทันที” นี่เป็นจุดเชื่อมที่สำคัญระหว่างมิติทางวิญญาณกับมิติทางสังคม
...ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างศาสนากับรัฐ ณ ปัจจุบันมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ตอลสตอยให้คำตอบว่า "คนส่วนใหญ่มีชีวิตอยู่อย่างขาดศรัทธา ฝ่ายหนึ่งเป็นชนส่วนน้อยที่มีการศึกษาและมั่งคั่งร่ำรวย พวกนี้ไม่เชื่อศาสนา แต่เห็นว่ามีประโยชน์ในการควบคุมมวลชน ซึ่งคืออีกฝ่ายหนึ่งอันเป็นชนส่วนใหญ่ที่ยากจนและไร้การศึกษา คนกลุ่มนี้เข้าใจว่าตนเองศรัทธา แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ตอลสตอยใช้คำว่าพวกเขาโดน “สะกดจิต” ซึ่งคือการถูกชักจูงให้ออกจากศาสนาที่แท้จริงโดยไม่รู้ตัว แต่เดินไปในหนทางที่ชนกลุ่มน้อยต้องการ
...การชักจูงที่ว่านี้มีกรรมวิธี ๓ ประการ คือ
.....๑. มีบุคคลพิเศษบางคนที่เป็นตัวกลางระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า(หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์บางอย่างตามทรรศนะของพระพุทธศาสนาในประเทศไทย)
.....๒. อภินิหารต่างๆ ที่เคยมีหรือยังมีอยู่มักถูกนำมาแสดง เพื่อพิสูจน์และยืนยันสัจธรรมที่ตัวกลางเป็นผู้กล่าวไว้ และ
.....๓. มีการใช้คำพูดที่เคยกล่าวย้ำไว้ด้วยวาจาหรือจารึกไว้ในหนังสือเพื่อแสดงถึงเจตจำนงของพระเจ้า พูดสั้นๆ คือ ชอบอ้างคัมภีร์เพื่อให้ตนได้ผลประโยชน์
...กรรมวิธีทั้งสามนี้จะรับรองในสิ่งที่ตัวกลางพูดว่าเป็นสัจธรรมอันศักดิ์สิทธิ์ ตอลสตอยบอกว่าผลของการชักจูงเหล่านี้รับรองความไม่เสมอภาคและเกิดการแบ่งแยก
****เมื่อพิจารณาสถานการณ์ของศาสนาในประเทศไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผู้เขียนเห็นว่าที่ใดที่มี “ศาสนาจัดตั้ง” ย่อมมีกรรมวิธีที่คล้ายกัน สถานการณ์ทางศาสนาในประเทศไทยยามนี้ดูจะสะท้อนภาพอดีตของออร์โธด๊อกซ์ในรัสเซียเมื่อร้อยกว่าปีก่อนได้อย่างไม่น่าเชื่อ จึงไม่น่าแปลกใจว่าคริสตจักรรัสเซียประกาศขับตอลสตอยออกจากคริสต์ศาสนาเขาจึงกลายเป็นพวกนอกรีตไปโดยปริยาย
...อีกกลุ่มหนึ่งที่ตอลสตอยโจมตีคือ นักวิชาการ ซึ่งเป็น “ชนกลุ่มเดียวที่สามารถปลดปล่อยตัวเองออกจากอิทธิพลแห่งการสะกดจิต” และนำพาประชาชนให้พ้นจากแอก แต่กลับไม่ทำหน้าที่หนำซ้ำยังทิ้งให้ประชาชนงมงาย เพื่อ “พวกเขาจะได้รักษาไว้ซึ่งสถานภาพที่มีอภิสิทธิ์ในหมู่ชนส่วนน้อยของตน”
...กลุ่มสุดท้ายคือ รัฐบาล อันตอลสตอยบอกว่าเป็นความหวังของนักปฏิรูปในทุกยุคทุกสมัยที่ผู้ปกครองจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจที่ครอบงำและกดทับประชาชน ให้นำไปสู่ความรักและการรับใช้ แต่ทว่า หากเราพิจารณาในความเป็นจริงมวลชนรุ่นแล้วรุ่นเล่ามีชีวิตอยู่และตายไปภายใต้ภาวะเดิมๆ ซึ่งถูกยึดกุมไว้โดยนักบวชและรัฐบาล ชนชั้นนำย่อมไม่เปิดเผยความเท็จของศาสนาที่ดำรงอยู่ เพราการเผยแพร่ศาสนาที่แท้ คือการทำลายโครงสร้างอำนาจเปรียบเทียบได้กับการตัดกิ่งไม้ที่พวกเขากำลังนั่งอยู่
...เหตุผลเหล่านี้ผู้เขียนเห็นว่าไม่ถูกต้องอย่างแน่นอนและเริ่มเข้าใจแล้วว่าเหตุใดนักปฏิวัติเช่นเลนินจึงกล่าวว่า “ตอลสตอยยิ่งใหญ่ในฐานะโฆษกทางความคิดและความรู้สึกที่เกิดขึ้นในหมู่กสิกรชาวรัสเซียนับล้านในช่วงปฏิวัติกฏุมพีที่กำลังจะเกิดขึ้นในรัสเซีย” เพราะความคิดของตอลสตอยนั้นเป็นขบถต่ออำนาจ อำนาจที่ไม่มีใครกล้าขัดขืนมาก่อน รัฐและศาสนาเป็นองค์กรที่ใหญ่ที่มีภาพลักษณ์ว่ารวมหัวกันกดขี่ประชาชน หากแต่สิ่งเหล่านี้ ตอลสตอยทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิเคราะห์เชิงปรัชญา พระอัครสาวก

  พระธาตุพนม บรมเจดีย์                                                                                                                      ...