![]() |
สามเณรอวดอุตริ อ้างเป็นร่างทรงหลวงปู่ครูบา เปิดสำนักทรงเจ้า |
บทความสั้น "วัตถุนิยมทางจิตวิญญาณ : ปรากฏการณ์ในสังคมไทย"
ผู้เขียน : พระสมุห์อดิเรก อาทิจฺจพโล
...บทความนี้ตรงกับปรากฏการณ์ทางจิตวิญญาณที่สังคมไทยกำลังเผชิญอยู่ นั่นคือคำสอนทางศาสนามักถูกใช้เป็นเครื่องมือในการควบคุมสิ่งที่เข้ามาก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง (ซึ่งมักถูกมองในฐานะสิ่งคุกคาม)
...เราจะรู้เท่าทันอำนาจการบิดเบือนคำสอนทางศาสนาของอัตตาได้อย่างไร?,คำสอนทางจิตวิญญาณควรถูกนำมาใช้ในการตั้งคำถามกับความเป็นไปของสังคมและตัวเราเองอย่างไร? การแสวงหาคุณค่าทางจิตวิญญาณของคนรุ่นใหม่ควรเป็นไปในทิศทางใดจึงจะสอดคล้องกับความทุกข์ที่เกิดขึ้นจริงในชีวิต?
....เหล่านี้เป็นคำถามที่มีอยู่ในหัวใจของผู้แสวงหาสัจจะทุกยุคทุกสมัย อะไรคือ วัตถุนิยมทางจิตวิญญาณ
...คำบรรยายนี้เป็นการท้าทายความเชื่อเรื่อง “ศาสนา” และเปลี่ยนมุมมองต่อคำว่า “ธรรมะ” ไปโดยสิ้นเชิง การปฏิบัติธรรมไม่ใช่หนทางสู่การพ้นทุกข์หรือสร้างสุขอีกต่อไป แต่คือการยอมรับและเผชิญทุกข์และความสุขตามที่เป็นอยู่จริงๆ ธรรมะไม่ใช่การตัดสินดีชั่ว ถูกผิด ไม่ใช่การกำจัดด้านมืดให้สิ้นซาก หรือการแบ่งแยกฝ่ายธรรมะจากฝ่ายอธรรม ไม่ใช่การพิพากษาว่าอัตตาเป็นสิ่งชั่วร้ายที่ต้องกำจัด แต่ต้องรู้ทันและเข้าใจมันอย่างทะลุปรุโปร่ง จนอัตตาไม่อาจมีอำนาจเหนือความรู้แจ้งของเราได้
...เส้นทางจิตวิญญาณไม่ใช่เรื่องของการพยายามเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนดีมีศีลธรรม หรือหลีกหนีจากชีวิตแบบโลกีย์ๆ แต่คือการเป็นตัวของตัวเอง ยอมรับตัวเองอย่างที่เป็น ภาคภูมิใจในความเป็นคน และตระหนักว่าศักยภาพแห่งการรู้แจ้งไม่ใช่สิ่งที่ต้องสร้างขึ้นใหม่ ทว่าเป็นสิ่งที่มีอยู่ในตัวเราทุกคนอยู่แล้ว
![]() |
พระสงฆ์-ฆราวาส แห่กราบร่างทรงพระพุทธเจ้า |
...ชาวพุทธควรจะหันกลับมาตระหนักในเรื่อง “วัตถุนิยมทางจิตวิญญาณ” อันหมายถึงการใช้หลักธรรมคำสอน เทคนิคปฏิบัติ และภาพลักษณ์สูงส่งทางจิตวิญญาณ เพียงเพื่อการหลอกตัวเอง การเสริมสร้างอัตตา หรืออัตลักษณ์ทางศาสนา ศีลธรรม ความดี บุญบารมี ปัญญาญาณ ขั้นการบรรลุธรรม ฯลฯ อย่างปราศจากการนำพุทธธรรมมาฝึกฝนปฏิบัติจริงในชีวิต ซึ่งจะเห็นได้ในปัจจุบันนับวันที่จะหลงทางกันไป เกิดกระแสความคิดที่ต้องการการขัดแย้งมากกว่าความสงบสุข แล้วก็มักจะอ้างสิทธิส่วนตนเอาอัตตาตัวตนเป็นใหญ่ โดยแท้ที่จริงแล้วก็เพราะการหลงไปกับความเพ้อฝัน หรือความฟุ้งซ่าน ซึ่งต่างก็ยกมาหักล้างกันทางเหตุผล จนทุกวันนี้ หาผู้คนที่จะนำธรรมะของพระพุทธศาสนาในส่วนของปฏิบัติไปทดสอบ ทดลองปฏิบัติยากขึ้นมากขึ้นทุกที
..โดยเฉพาะในส่วนของ สมถภาวนา และวิปัสสนาภาวนา ซึ่งเป็นเสมือนทางสายเอกที่จะนำจิตวิญญาณไปสู่ความพ้นทุกข์โดยสิ้นเชิงตามหลักการของพระพุทธศาสนา โดยปราศจากการสร้างภาพลักษณ์สูงส่งใดๆ และไม่เป็นการหลอกตัวเอง บางคนพูดถึงพระนิพพาน อธิบายได้อย่างแจ่มแจ้งในความรู้ของตนที่ได้ศึกษามาแล้วเป็นอย่างดี แต่ไม่เคยได้ลงมือปฏิบัติเพื่อที่จะบรรลุธรรมอันสูงสุดนั้นนี่ก็เป็นการหลอกตนเอง บางครั้งถึงกับสร้างสิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่สุดจะบรรยายด้วยเงินมหาศาลแล้วก็พยายาม นำการกระทำของตนโยงเข้าหาหลักคำสอน ก่อนจะตกลงใจว่า ได้บรรลุคุณวิเศษชั้นหนึ่งแล้ว ความคิดอย่างนี้มักจะมีอยู่ในหมู่ชนที่หมกมุ่นอยู่กับการแสวงหาหนทางหลุดพ้นทางจิตวิญญาณทั้งสิ้น ส่วนผู้คนอีกกลุ่มหนี่งก็จะเลือกใช้วิธีบนบานสานกล่าว เหล่าเทวดา ผีสาง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หลงไปทางไสยศาสตร์ “ แม้จะเป็นการไหว้พระพุทธรูป หรือสวดมนต์ ก็เข้าข่ายหลงไปทางไสยศาสตร์เช่นกัน เพราะเขาทำไปเพื่ออ้อนวอนขอให้สิ่งเหล่านั้นคุ้มครองภัยอันตราย หรือดลบันดาลโชคลาภ โดยสร้างมโนภาพของสวรรค์และวิมานที่ไม่มีอยู่จริงขึ้นมาหลอกตัวเองอีกชั้นหนึ่ง เรียกว่า “สร้างอัตตาสองชั้น” และเมื่อทำไปบ่อยๆ ก็เลยเข้าใจไปว่า ตนเองมีการพัฒนาทางจิตวิญญาณ เป็นคนมีคุณธรรมสูงกว่าคนทั่วไป หรือบางครั้งก็เลยเถิดไปจนถึงขั้นตั้งตนเป็นคนทรงเจ้า เป็นผู้วิเศษ หรือเป็นอรหันต์ไปเลย
![]() |
ร่างทรงพระศรีอริยเมตไตรย์ ก็มาด้วย |
...ทุกวันนี้ก็มีการแต่งคาถาสวดปกป้อง คุ้มครอง ขอฝน บนบาน บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เกิดขึ้นมากมายเพราะความหลงไปกับกระแสวัตถุนิยมทางจิตวิญญาณ จนหลักคำสอนอันเป็นแก่นของการปฏิบัติเพื่อการบรรลุที่แท้จริงนั้นถูกมองข้ามและเป็นของสงวนไว้สำหรับนักบวช บรรพชิต ส่วนคนทั่วไปนั้นก็คอยฟังผลของการปฏิบัติของนักบวชหรือบรรพชิตเหล่านั้นอีกทีหนึ่ง จึงทำให้มีการหลอกลวงต้มตุ๋นกันมากยิ่งขึ้น มีพระอริยะปลอม เกิดขึ้นมากมายเพื่อสนองกิเลสของปุถุชนผู้ลุ่มหลงไปกับวัตถุนิยมทางจิตวิญญาณพวกนั้นที่ได้สร้างอัตตาขึ้นมาผ่านเทคนิคทางจิตวิญญาณอันซับซ้อน
...ดังนั้นชาวพุทธจึงควรนำธรรมะในส่วนของปริยัติธรรมมาพิจารณาให้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งและนำเข้าสู่การปฏิบัติ ซึ่งมีทั้งส่วนที่ปฏิบัติได้ง่าย ๆ ในชีวิตประจำวันไปจนถึง การปฏิบัติเพื่อการหลุดพ้น จนมีความเห็นที่เป็นทิฏฐิวิสุทธิ คือความเห็นที่บริสุทธิ์ อย่างแท้จริงโดยปราศจากอัตตาตัวตน หรือการสร้างมโนภาพทางจิตขึ้นมาเป็นเป้าหมาย
พระอดิเรก อาทิจฺจพโล
28 มิถุนายน 2558
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น